ในยุคที่ทั้งโลกต้องเผชิญกับภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
คำว่า Net Zero และ พลังงานสะอาด (Clean Energy) ได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของทุกประเทศ
การลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ
จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือ “ความจำเป็น” เพื่อความยั่งยืนของโลกใบนี้

ในบรรดาพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ
“ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen)” กำลังถูกยกให้เป็น พลังงานแห่งอนาคต
ที่มีศักยภาพสูงสุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและช่วยโลกบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission

ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) คือไฮโดรเจนที่ผลิตขึ้นจาก พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)
เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) และพลังงานลม (Wind Energy)
โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) — การแยกโมเลกุลของน้ำ (H₂O) ออกเป็นก๊าซไฮโดรเจน (H₂) และก๊าซออกซิเจน (O₂)
ด้วยไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานสะอาด 100%

สมการทางเคมีคือ:

2H₂O → 2H₂ + O₂
 

จุดเด่นคือ ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ในทุกขั้นตอน
ทำให้ไฮโดรเจนสีเขียวเป็น “พลังงานสะอาดที่สุด” ในบรรดาไฮโดรเจนทุกประเภท

1. รับพลังงานจากแหล่งหมุนเวียน
 

• ใช้พลังงานจาก โซลาร์เซลล์ (Solar Panels) เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน
   
• ใช้พลังงานจาก กังหันลม (Wind Turbines) ผลิตไฟฟ้าในเวลากลางคืนหรือช่วงที่มีลมแรง
   

2. แยกน้ำด้วยกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis)
พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแสงแดดและลมจะถูกส่งเข้าสู่เครื่อง Electrolyzer
เพื่อแยกน้ำ (H₂O) ออกเป็นไฮโดรเจน (H₂) และออกซิเจน (O₂)
 

3. กักเก็บพลังงานในรูปของไฮโดรเจน (H₂ Storage)
ก๊าซไฮโดรเจน (H2) ที่ผลิตได้จะถูกเก็บไว้เพื่อนำไปใช้ผลิตไฟฟ้าผ่าน เซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ในเวลาที่ไม่มีแสงแดดหรือไม่มีลม
 

พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและไม่มีวันหมด
แต่มีข้อจำกัดสำคัญคือ ไม่สามารถผลิตพลังงานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา

• กลางวันมีแสงแดด แต่กลางคืนไม่มี
   
• บางวันลมพัดแรง บางวันลมสงบ
   

พลังงานไฮโดรเจนสีเขียว จึงเข้ามาเติมเต็มจุดอ่อนนั้นได้อย่างลงตัว

เพราะเมื่อเรามีไฟฟ้าจากแดดหรือลมเกินความต้องการในช่วงกลางวัน
สามารถนำไฟฟ้าส่วนเกินนั้นมาใช้ ผลิตไฮโดรเจนและกักเก็บไว้
แล้วนำไฮโดรเจนที่เก็บไว้นี้กลับมาใช้ผลิตไฟฟ้าในเวลากลางคืนหรือวันที่ไม่มีลม

นั่นหมายความว่า ระบบพลังงานสะอาดจะสามารถ ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงเต็ม
โดยไม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลแม้แต่น้อย

นี่คือเหตุผลที่หลายประเทศมองว่า “ไฮโดรเจนสีเขียว” คือ “สะพานเชื่อม” ที่ทำให้
พลังงานหมุนเวียนกลายเป็นระบบพลังงานหลักของโลกได้จริง